[CR] โฮจิมินห์ ดาลัต มุยเน่ - 5 วัน 4 คืน กับร่างเกือบพัง

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ นี้เป็นกระทู้แรกของ จขกท. เนื่องจากวันหยุดยาวที่ผ่านมา (วันอาสาฬหบูชา+วันเข้าพรรษา) จขกท.ได้ชวนเพื่อนไปเวียดนาม แต่ในตอนแรกนั้นไม่มีใครไปเลย เหมือนจะล่มแล้ว แต่อยู่ดีๆเหมือนสวรรค์จะเข้าข้าง เพื่อนก็ได้ตอบตกลงไป แต่ในการเที่ยวครั้งนี้ เพื่อนวางแผนค่ะ แหะๆ จขกท.แค่มาเล่าประสบการณ์สนุกๆให้ฟังกัน ไปกันเลยทริปนี้มีสมาชิก 4 คนนะ คือ จขกท. เพื่อน น้องสาวเพื่อน และรุ่นพี่ผู้ชายหนึ่งคน เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา
    จขกท.และเพื่อนจองตั๋วกลับกันก่อนเลยของนกแอร์ ในงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก เราเลือกบินไฟล์20.45 น.ซึ่งไม่ดึกมากในราคา 1,254 บาท ราคาค่อนข้างแพงหน่อยเพราะว่าเพื่อนมัวแต่รอคำตอบของสมาชิก แต่ได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ส่วนตั๋วไป พวกเราเลือกไฟล์ 05.25 น. ซึ่งเป็นไฟล์เช้าสุดออกจากดอนเมืองจองผ่านทราเวทโลก้าโดยการใช้ส่วนลด 500 บาทต่อคน ของไลอ้อนแอร์ค่ะ ได้ในราคา 1,951 บาท
    
แผนที่วางไว้คร่าวๆคือ บอกก่อนว่าจขกท.ไป 5 วัน 4 คืนค่ะ

วันแรก -บินไปถึงโฮจิมินห์เช้า หารถนอนไปดาลัตคืนนั้น หลังจากนั้นเที่ยวในโฮจิมินห์
วันที่สอง – เที่ยวดาลัต
วันที่สาม – เที่ยวดาลัต
* ทั้งสองคืนนอนโรงแรม white pearl hotel dalatเพื่อนเลือกจองผ่าน agoda.com ราคา 65.96 USD / 2,277.58 B เป็นห้องนอนสองเตียงคิงไซต์ นอนรวมกัน 4 คนค่ะ
วันที่สี่ – นั่งรถเช้าไปมุยเน่ ซื้อฮาร์ปทริป แล้วนั่งรถนอนกลับโฮจิมินห์
วันที่ห้า – เก็บที่เที่ยวที่เหลือ ซื้อของฝาก บินกลับไทย
สิ่งของที่ต้องเตรียมคือ

– ชุดกันฝน
- ร่ม
- รองเท้าแตะ
-ครีมกันแดด DPF สูงๆไปเลยค่ะ
- ยาสามัญประจำบ้าน / ยาประจำตัว (จขกท.เน้นยานวดแก้ปวดเมื่อยค่ะ เพราะมันจะปวดเท้ามาก)
.
.
ถึงวันเดินทางวันแรกแล้ว เย้ !! ยิ้ม
ข้ามขั้นตอนการเข้าเกตและเครื่องไปเลยเนอะ
เวลาในการบินใช้เวลาประมาณ 1.30 นะ
เมื่อถึงสนามบิน ผ่านต.ม. ไม่มีการถามใดๆ อย่าตกใจหน้าตาพี่เขา เขาแค่ไม่ยิ้มนะ เมื่อรับประเป๋าเสร็จแล้ว พวกเราเลือกซื้อซิม4G ราคาคนละ 220.000 ดองเมื่อออกไปหน้าสนามบิน ถนน PhanNgu Lao เดินไปทางขวามือประมาณ 500 เมตร ให้ขึ้นบัส 152 สีเขียวค่ะ ราคาคนละ 5.000 ดองเองค่ะ ถูกมาก บอกว่าลงตลาดบินถั่น พี่คนขับจะบอกและไล่เราในเวลาเดียวกันเมื่อถึง เดินหาตลาดในเจอ สังเกตชื่อถนน Le laiเพราะที่ซื้อตั๋วบัสนอน อยู่ใกล้ถนนนี้ แต่กว่าจะรู้ว่าต้องสังเกตอะไร พวกเราก็เดินหลงกันไปเกือบ 5 กิโลเมตรไปแล้วค่ะ เดินวนไปหนึ่งรอบเนื่องจากเปิดกูเกิลแมพ มันพาวนค่ะ
    หลังจากเดินวนอยู่เป็นชั่วโมง เราก็หาบริษัท Phuong Trangตกลงซื้อบัส 4 ที่ ในเวลา 23.45 น.ราคาคนละ 210.000 ดองและเราเลือกฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทลข้างๆบริษัท ในราคาใบละ 30.000 ดอง แต่พวกเราต่อรองกับเจ้าของที่เป็นผู้ชายได้ราคารวม 100.000 ดอง 4 ใบ ตกราคาใบละ 25.000 ดองค่ะ ทางโฮลเทลมีบริการให้อาบน้ำในราคาคนละ 30.000 ดองค่ะ พวกเราเลยยังไม่ตัดสินใจ รอดูเย็นว่าจะเหนื่อยแค่ไหน พอที่จะเสียตังอาบน้ำไหม
    ตั้งแต่เช้าจนเวลาเกือบ 10 โมงยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ในตอนแรกจะกินเฝอแต่น้องสาวค่อนข้างเลือกกิน (แค่ในมื้อแรก) พวกเราเลยเลือกจะกินอาหารที่คุ้นตา นั้นคือ KFC แต่ มันไม่เป็นอย่างที่พวกเราคิด เพราะซอสของที่เวียดนามมันกินไม่ได้เลย อย่าพูดถึงความอร่อย ซอสพริกไม่เผ็ดแต่เปรี้ยวเหมือนน้ำมะนาว ที่แย่กว่าคือซอสมะเขือเทศมีความเปรี้ยวเหมือนมะเขือเทศเน่า (คหสต.) สรุปพวกเรากินไก่เปล่ากันค่ะ
    หลังจากเฟลแรกไปแล้ว กินแล้วก็มีแรงเดิน (ทางโฮลเทลที่รับฝากกระเป๋าได้ให้แผนที่แนะนำที่เที่ยว และมาร์คที่เที่ยวให้พวกเรา) พวกเราเลือกเดินไปยังอาร์ทมิวเซียมก่อน เพราะมันใกล้สุดในการเดินไป แต่ก็มีพวกมอ’ไซต์เถื่อนที่เหมือนหวังดีมาคอยถามเหมือนไม่ต้องการอะไร แต่แล้วก็จะให้เราเลือกใช้บริการของเขา และเหมือนจะมีนายหน้า หรือตัวแทนเข้าไปถามพวกเราก่อน แล้วจะเรียกพวกของตัวเองมาเพื่อกดดันให้เราใช้บริการของเขา แต่พวกเราเลือกจะตอบ โน และพยายามจะเดินหนี เพื่อความปลอดภัยและไม่โดนโกงเงินนะคะ (สำหรับใครที่ไปคนเดียวหรือไปเฉพาะกลุ่มผญ.ล้วน แนะนำให้ถามพนักงานร้านค้าที่เป็นแบรนด์ พนักงานโรงแรม ตำรวจค่ะ พยายามเลี่ยงถามคนปกติเพื่อจะได้ไม่โดนคนเหล่านี้กดดันค่ะ) และเช่นเคยค่ะ เมื่อเราเลือกจะเดินเองพวกเราก็จะหลงไปหลงมา พยายามเดินแล้วอ่านป้ายถนนค่ะ มันจะทำให้หลงน้อยที่สุด จุดหมายของเราคือ อาร์ทมิวเซี่ยม แต่ที่เราไปมันกำลังปรับปรุง เราเดินเข้าไปดูมีลานกิจกรรมให้เด็กๆมาวาดรูป เพ้นรูป ระบายสีต่างๆ บริเวณในรั้วจะมีแกลอรี่ของศิลปินต่างๆที่ขายงานของตัวเอง เฟลอีกแล้วค่ะ     เราเลือกไปถนนคนเดินตามที่คนดูแลโฮลเทลแนะนำว่ามีถนนคนเดินในตอนเช้า ทางที่เดินไป ผ่านตึกbitexco Financial Tower  ในตอนแรกนั้นวางแผนว่าจะขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกที่ตึก ผ่านมาแล้วก็แวะผ่านรูปก่อนเลย
ต่อไปก็เดินไปยังถนนคนเดิน แต่ .. มันกลับไม่มีอะไรเลย งื้อ เหมือนโดนหลอก พวกเราเลยเปลี่ยนแผนไปโอเปร่าเฮ้าส์ แต่ก็อย่างที่คาดไว้ ค่าเข้าชมแพงมาก เลยถ่ายกันข้างหน้า กลางแดดเปรี้ยง แต่ยิ้มเหมือนอากาศหนาวมาก อมยิ้ม16 (เหตุการณ์หน้าโอเปร่าเฮ้าส์: สำหรับเวียดนามจะมีรถสามล้อถีบ หรือ แซบาแบ้ง มาก จะพยายามเรียกเราให้นั่งชมเมือง ราคาตามตกลง เขาพยายามเรียกพวกเราว่าปินส์ตลอดเวลา แต่พวกเราตอบโนและเดินผ่านตลอด แต่ ณ โอเปร่าเฮ้าส์นักท่องเที่ยวชาวจีน หรือ เกาหลี *คาดเดา* ได้ขอขึ้นไปนั่งถ่ายรูปบนรถสามล้อ ไม่แน่ใจว่ามีการตกลงกันอย่างไร แต่ดูเหมือนจะไม่ได้จ่ายตัง เจ้าของรถได้เรียกรถอีกคนเพื่อมากดดันสองสาวนักท่องเที่ยว อยากบอกทุกคนว่า ถ้าอยากนั่งก็ตกลงราคากันให้ดี เราไม่สามารถรู้ได้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไรถ้าไม่ทำตามกติกาบ้านเมืองของเขา )
เดินวนกลับมายังลุงโฮห์กัน คนค่อนข้างน้อย ด้วยความที่แดดร้อนมาก เที่ยงตรง เลยรีบถ่าย รีบหลบแดด รีบเดินไปที่อื่นกันต่อ แต่ด้วยความร้อนและเมื่อย ทำให้ต้องมองหาห้าง ร้านกาแฟ หรืออะไรก็ได้ที่นั่งพักและเย็น ซึ่งเราก็เจอค่ะ Vincom center แต่ เราไม่พบความเย็นเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเขาประหยัด หรือเราร้อนเกินไป ไม่เย็นเลย เลยนั่งร้าน Thai tea coffee คาเฟ่เล็กๆ แต่ความเฟลก็ยังไม่หมด เพราะมันไม่อร่อยเลย อมยิ้ม09     พักขาจนอาการดีขึ้น พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังไปรษณีย์กลางของเวียดนาม แต่ด้วยความเก่งเส้นทาง ก็หลงเช่นเคย ไปโผล่ด้านหลังไปรษณีย์ก็แอบผิดหวัง เลยเดินวนไปเพื่อไปโบสถ์ แต่ถนนข้างไปรษณีย์เหมือนเป็นถนนแห่งการอ่าน (คาดเดาเอาเอง) มีร้านหนังสือ บูทหนังสือ ของฝากเล็กๆน้อยๆ และในวันที่จขกท.ไป มีการแถลงเปิดหนังสือใหม่ มีผู้คนชาวเวียดนามให้ความสนใจค่อนข้างมาก ถนนสวยและร่มรื่นดีค่ะ
และแล้วเราก็ไม่เฟลค่ะ เพราะเราเจอไปรษณีย์กลางของจริงแล้ว นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเยอะแยะ ด้านในมีนักท่องเที่ยวเลือกซื้อโปสการ์ด และส่งได้เลย มีร้านขายของฝาก ของที่ระลึกด้วยเช่นกัน ตรงข้ามมีโบสถ์นอร์ธเธอดาม แต่ด้วยความที่มีถนนขนาบข้างโบสถ์ทั้งสองฝั่ง เลยไม่สามารถยืนถ่ายรูปด้วยได้ และความเฟลคือ โบสถ์ปิดปรับปรุงไม่สามารถเข้าไป แต่มีพรายกระซิบมาว่า ถ้าอยากเข้าไปให้เดินเนียนๆเข้าไปเลย ถ้าใครอยากลองก็ลอง แต่มันก็ไม่ดี แล้วแต่วิจารณญาณแต่ละบุคคลเน้อ
    เนื่องจากเราจองบัสในรอบดึกมาก พวกเราจึงเดินกลับไปยังสะพานที่เห็นก่อนจะถึงตึก bitexco Financial Tower แต่ความพีคคือ พวกเราเจอ 7-11 ค่ะ ดีใจมาก เพราะทั้งวันเราพยายามหาร้านสะดวกซื้อมาทั้งวัน เหมือนเราเจอโอเอซิสในทะเลทราย ประหลาดใจ ช็อปกันหนำใจ ก็เดินไปจุดมุ่งหมาย แต่เมื่อถึงสะพานแล้ว กลับเฟลอีกแล้วฮะ เพราะมันไม่มีอะไรเลย แถมน้ำยังเหม็นเกือบจะพอๆกับแสนแสบเลยค่ะ แต่จากสะพานพวกเรามองเห็นใบเรือสำเภา เลยเปลี่ยนจุดหมายใหม่ไปยังเรือสำเภาที่เห็นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
และความเฟลของเราก็ไม่สิ้นสุด เพราะเรือที่เราเห็นนั้นมันคือร้านอาหาร ไม่สามารถไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ จึงเดินข้ามอีกสะพานกลับมายังถนนคนเดิน และเย้ เราเจอถนนคนเดินจริงๆ มีชาวเวียดนามออกมาพักผ่อนหย่อนใจ มีบูทที่ทางการจัดให้แสดงออกอย่างหลากหลาย เช่น ดีเจ การละเลงทรายบนจอ ฯ ประมาณ 4-5 บูท มีร้านขายอาหารแผงลอยค่อนข้างเยอะ (ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร) เดินเล่นกันจนดึกพอสมควร พวกเราจึงเลือกเดินกลับมายังแถวที่ขึ้นรถเพื่อมาลองกินเฝอร้านอร่อยที่คนดูแลโฮลเทลแนะนำ เมื่ออิ่มแล้วก็กลับโฮลเทลเพื่ออาบน้ำ สระผม ยอมเสียเงิน 120.000 ดอง เพราะสภาพแต่ละคนที่เดินทั้งวัน และอากาศร้อน
* หลังจากอาบน้ำเสร็จ จขกท. อาบยานวดเลยค่ะ ถูกแล้วค่ะ ทาคงน้อยไป เพราะละเลงทั่วขาและเท้าเลย ปวดมาก
ถึงเวลาขึ้นรถบัสแล้ว เป็นบัสนอน ที่นอนคนเดียว เป็นที่นอนสองชั้น มีผ้าห่มให้ และทุกคนต้องถอดรองเท้าใส่ถุงวางไว้ที่เท้าของตัวเอง
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวเวียดนามใต้
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่